Grasse เมืองแห่งเสน่ห์น้ำหอมของฝรั่งเศส

วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจความสวยงามและเสน่ห์ของเมืองกราซ (Grasse) ในประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำหอมที่สำคัญในฝรั่งเศส ที่นี่มีทุ่งดอกไม้ที่สวยงามหลากหลายชนิดอยู่เต็มไปหมด นอกจากนี้ยังมีบ้านเมืองที่มีเอกลักษณ์ และบรรยากาศโรแมนติก อันถือว่าเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นประวัติความเป็นมาของเมือง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ หรือน้ำหอมดีๆ มากมาย ที่นักท่องเที่ยวต้องซื้อติดกลับไป เราจะมารู้จักกับเมืองนี้ด้วยกัน

ทำความรู้จักกับเมืองแห่งเสน่ห์ต้องมนต์ Grasse

สำหรับเมือง กราซ (Grasse) เป็นเมืองท่องเที่ยวของฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ทางใต้ของแคว้นโพรวองซ์ (Provence) ใน French Riviera ห่างจากเมืองคานส์ (Cannes) เพียงแค่ 15 กิโลเมตรเท่านั้น มีลักษณะอยู่บนภูเขาสูงประมาณ 300-400 เมตรและมีทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขา ป่าไม้ ถ้ำ รวมถึงเป็นที่รู้จักในฐานะ “เมืองหลวงแห่งน้ำหอม” (Capital of Perfume) ซึ่งเป็นเมืองแหล่งการผลิตน้ำหอมที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส และเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง ฟราโกนาร์ (Fragonard), กาลิมาร์ (Galimard), โมลินาร์ (Molinard), ดิออร์ (Dior), และชาแนล (Chanel) ซึ่งหลายๆ คนคงรู้จักดี ทั้งนี้เมืองกราซยังมีทิวทัศน์ที่งดงาม และเป็นที่ต้องการสำหรับการท่องเที่ยวในแคว้นโพรวองซ์นี้อีกด้วย

ประวัติความเป็นมาของเมืองกราซ

เมื่อคุณพูดถึงเรื่องของเมืองกราซ (Grasse) คงไม่มีใครไม่พูดถึง น้ำหอม อย่างแน่นอน แต่น่าจะน่าสนใจที่ว่านี้ เพราะในอดีตนั้น กราซเคยเป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมหนังสัตว์ มากกว่าการผลิตน้ำหอม โดยเฉพาะในสมัยที่ศตวรรษที่ 16 มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก แต่เมื่อภาษีการผลิตหนังสัตว์สูงขึ้น ก็ทำให้เมืองเปลี่ยนทางมาเน้นการผลิตน้ำหอมจากดอกไม้แทน ไม่ว่าจะเป็น มะลิ กุหลาบ หรือลาเวนเดอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเก็บมาจากทุ่งดอกไม้รอบเมือง และเริ่มจากการนำไขมันสัตว์มาหมักกับดอกไม้ เพื่อให้ไขมันซึมซับกลิ่นหอมของดอกไม้เหล่านั้น จากนั้นนำมาสกัดเป็นน้ำหอมค่ะ

นอกจากนี้ในศตวรรษที่ 17 ราชินีแคทเธอรีน เดอ เมดีชี (Catherine de’ Medici) ภรรยาของกษัตริย์เฮนรีที่สองของฝรั่งเศส ได้สั่งให้ปลูกดอกไม้หลายชนิดในเมืองกราซ เพื่อนำน้ำหอมไปอบกับถุงพระหัตถ์ที่ใช้ในพิธีทางศาสนา ทำให้ถุงพระหัตถ์มีกลิ่นหอมของดอกไม้ตลอดเวลา จากนั้นอุตสาหกรรมน้ำหอมก็เจริญรุ่งเรือง และก้าวสู่ความก้าวหน้าในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19

สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของเมือง

ในเมืองกราซนี้ นักท่องเที่ยวจะพบสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เกี่ยวข้องกับน้ำหอมโดยเฉพาะ เริ่มต้นที่ Musée International de la Parfumerie ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมาก ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดแสดงและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมในแต่ละยุคสมัย การผลิตน้ำหอม และชนิดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเรือนกระจกที่แสดงถึงการเพาะปลูกดอกไม้ที่ใช้ในการผลิตน้ำหอม และสถานที่เรียนรู้สำหรับเด็กๆ เพื่อให้ได้ลองสร้างสรรค์เครื่องหอมด้วยตนเองได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีแหล่งผลิตน้ำหอมแบรนด์ระดับโลกอย่างฟราโกนาร์ (Fragonard) กาลิมาร์ (Galimard) และโมลินาร์ (Molinard) ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าชมและเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตน้ำหอมที่น่าทึ่ง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความหอมของน้ำหอมชนิดต่างๆ ที่ผลิตขึ้นในสถานที่เหล่านี้ ซึ่งน้ำหอมที่ผลิตนั้นก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เพราะแต่ละช่วงของปี จะนำดอกไม้มาสกัดเป็นน้ำหอมแตกต่างกัน บางช่วงที่ดอกไม้ชนิดไหนโตออกดอกผลดีช่วงนั้นชาวเมืองก็จะนำมาทำน้ำหอมกลิ่นดอกไม้นั้นๆ ดังนั้นใครอยากสัมผสความหอมจากดอกไม้ไหน ต้องแพลนช่วงเที่ยวให้ดีอีกด้วย

สัมผัสเมือง Grasse ด้วยตัวตคุณเอง

อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าเมือง กราซ ไม่เพียงแค่น้ำหอมที่เด่นดังอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ตั้งแต่สถาปัตยกรรมที่สวยงามที่นี่มีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน และบรรยากาศดีๆ ที่เหมาะกับการพักผ่อนจิตใจ อย่างเช่น จัตุรัสเมืองที่เป็นที่ตั้งของ Saracen Tower หอคอยเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 อีกทั้งยังมีโบสถ์และคฤหาสน์สมัยศตวรรษที่ 17-18 ที่สร้างด้วยความสวยงามปราณีต นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ที่เต็มไปความคึกคักของผู้คน ทำให้เมืองกราซเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่งที่คุณควรไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง